• หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา

    สร้างแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอางของคุณกับ DoctorLab

    โรงงานรับผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางแบบ ODM ครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปี พร้อมบริการสร้างแบรนด์ วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะของคุณ ตั้งแต่ขั้นตอนวิเคราะห์ความต้องการ ออกแบบสูตร ทดลองผลิต ขึ้นทะเบียน อย. ไปจนถึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล รองรับทั้งตลาดไทยและต่างประเทศ

    เพิ่มเติม
    White Label
    • อาหารเสริม
    • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
    Private LABEL
    • อาหารเสริม
    • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ ยอดนิยม
    • วิตามินรวม
    • คอลลาเจนบำรุงผิว
    • บำรุงกระดูกและข้อ
    • ดีท็อกซ์
    • Plant-Based Protein
    • อาหารเสริมลดน้ำหนัก
    • บำรุงผม
    • บำรุงสายตาและสมอง
    • บำรุงตับ
  • ขั้นตอนการสร้างแบรนด์
  • ติดต่อเรา
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการของเรา
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ ยอดนิยม
  • ติดต่อเรา

Copyright © 2025 Doctorlab. All Rights Reserved.

oem-odm-obm-explained-for-startups
July 14, 2025
เริ่มต้นสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพ
by adlab

OEM, ODM, OBM คืออะไร? คู่มือเลือกโมเดลการผลิตสำหรับแบรนด์ของคุณ

การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตัวเองเป็นความฝันของหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจในยุคปัจจุบัน แต่กระบวนการผลิตสินค้าอาจดูซับซ้อนและท้าทาย โชคดีที่มีโมเดลความร่วมมือกับโรงงานผู้ผลิตให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยให้การสร้างแบรนด์เป็นไปได้ง่ายขึ้น

 รูปแบบที่นิยมได้แก่ OEM, ODM และ OBM ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และส่งผลต่อการเป็นเจ้าของแบรนด์ ต้นทุน และการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ การทำความเข้าใจโมเดลเหล่านี้อย่างถ่องแท้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับวิสัยทัศน์ ทรัพยากร และเป้าหมายของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้มีคำตอบ พร้อมเจาะลึกทุกแง่มุมที่คุณควรรู้


 

ทำความรู้จักกับ OEM, ODM, และ OBM

การเลือกโมเดลการผลิตที่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อต้นทุน เวลาในการออกสู่ตลาด การควบคุมคุณภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ‘การสร้างแบรนด์’ ของคุณ มาดูกันว่าแต่ละรูปแบบมีความหมายอย่างไร

OEM (Original Equipment Manufacturer): ผลิตตามแบบที่คุณกำหนด

OEM คือผู้ผลิตที่ทำหน้าที่ผลิตสินค้าตามแบบ หรือตามสูตรที่ลูกค้า (เจ้าของแบรนด์) กำหนดมาให้ โดยผู้ผลิต OEM จะมีโรงงาน เครื่องจักร และแรงงานที่พร้อม แต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวิจัยและพัฒนาสูตร รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ จะเป็นหน้าที่ของลูกค้าเกือบทั้งหมด

 

ข้อดีของ OEM:

  • การควบคุมสูงสุด: คุณสามารถควบคุมทุกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ส่วนประกอบหลักไปจนถึงการออกแบบขั้นสุดท้าย
  • สร้างความแตกต่าง: เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
  • ศักยภาพในการสร้างนวัตกรรม: สามารถนำเสนอสูตรหรือฟังก์ชันที่ไม่เคยมีในตลาดได้ หากมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา

 

ข้อเสียของ OEM:

  • ต้นทุนสูง: การลงทุนในการ R&D และการสร้างแม่พิมพ์หรือ tooling เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณอาจต้องใช้เงินทุนสูง
  • กระบวนการยาวนาน: ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การทดสอบ ไปจนถึงการผลิต อาจใช้เวลานานกว่าโมเดลอื่นๆ
  • ความเสี่ยงสูง: หากผลิตภัณฑ์ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด การลงทุนR&Dที่ลงไปอาจสูญเปล่า

 

OEM เหมาะกับใคร:

แบรนด์ขนาดใหญ่ที่มีทีม R&D เป็นของตัวเอง มีงบประมาณการลงทุนสูง และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมหรือเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง

ODM (Original Design Manufacturer): ผู้ช่วยพัฒนาและผลิตให้ครบวงจร

ODM คือผู้ผลิตที่มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนา (R&D) คิดค้นสูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ และผลิตสินค้าให้ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า ลูกค้าเพียงแค่เลือกสูตร เลือกรูปแบบที่โรงงาน ODM มีอยู่ หรือให้โรงงานช่วยพัฒนาสูตรใหม่ตามความต้องการเบื้องต้น

ข้อดีของ ODM:

  • เริ่มต้นได้เร็ว: เนื่องจากโรงงานมีสูตรหรือการออกแบบพื้นฐานพร้อมอยู่แล้ว ทำให้ลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงได้อย่างมาก
  • ต้นทุนต่ำกว่า OEM: ไม่ต้องลงทุน R&D หรือสร้างแม่พิมพ์ใหม่ทั้งหมด ทำให้ใช้งบประมาณเริ่มต้นน้อยกว่า
  • ความเสี่ยงต่ำกว่า: โดยส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ที่โรงงาน ODM มีมักจะเป็นสูตรที่ผ่านการทดสอบแล้วหรือเป็นที่นิยมในตลาด
  • ได้รับการสนับสนุนจากโรงงาน: โรงงาน ODM มักจะมีความเชี่ยวชาญและสามารถให้คำแนะนำด้านการผลิต กฎระเบียบ หรือการตลาดได้ในระดับหนึ่ง

 

ข้อเสียของ ODM:

  • ความแตกต่างน้อย: ผลิตภัณฑ์อาจมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้บริการโรงงานเดียวกัน หากไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือสร้างจุดเด่นเพิ่มเติม
  • การควบคุมน้อยกว่า: คุณอาจไม่สามารถควบคุมส่วนประกอบหรือกระบวนการผลิตได้ละเอียดเท่า OEM

 

ODM เหมาะกับใคร:

สตาร์ทอัพหรือธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่มีงบประมาณจำกัด ต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว ต้องการลดความเสี่ยงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา

OBM (Original Brand Manufacturer): สร้างแบรนด์ของตัวเองตั้งแต่ต้น

OBM คือผู้ผลิตที่สร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การวิจัย พัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่ายทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการสร้างทุกอย่างขึ้นมาเองภายใต้ชื่อแบรนด์ของตน

ข้อดีของ OBM:

  • เป็นเจ้าของแบรนด์เต็มตัว: ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด
  • สร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์: สามารถสร้างเรื่องราว ตัวตน และความภักดีของลูกค้าได้เต็มที่
  • กำไรต่อหน่วยสูงสุด: เมื่อประสบความสำเร็จ โรงงานจะได้รับผลกำไรเต็มที่จากการขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง

 

ข้อเสียของ OBM:

  • ลงทุนสูงและครบวงจร: ต้องลงทุนในทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่การผลิต การตลาด การขาย การจัดจำหน่าย
  • ความเสี่ยงสูงสุด: แบกรับความเสี่ยงทางธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวเอง
  • ต้องมีความเชี่ยวชาญหลากหลาย: ไม่ใช่แค่การผลิต แต่รวมถึงการสร้างแบรนด์ การตลาด การบริหารช่องทางการขาย

 

OBM เหมาะกับใคร:

โรงงานผู้ผลิตที่มีความแข็งแกร่ง ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเองในระยะยาว และพร้อมลงทุนในทุกมิติของธุรกิจ

ตารางเปรียบเทียบ OEM, ODM, OBM

คุณสมบัติOEMODMOBM
การวิจัยและพัฒนา (R&D)ลูกค้าดำเนินการเป็นหลักโรงงานพัฒนาให้ หรือร่วมพัฒนากับลูกค้าโรงงาน (เจ้าของแบรนด์) พัฒนาเองทั้งหมด
การออกแบบผลิตภัณฑ์/สูตรลูกค้ากำหนดโรงงานมีแบบ/สูตรมาตรฐานให้เลือก หรือปรับเปลี่ยนตามความต้องการโรงงาน (เจ้าของแบรนด์) ออกแบบเองทั้งหมด
การผลิตโรงงานผลิตตามแบบลูกค้าโรงงานผลิตตามแบบ/สูตรที่พัฒนาขึ้นโรงงาน (เจ้าของแบรนด์) ผลิตเองทั้งหมด
การเป็นเจ้าของแบรนด์ลูกค้าลูกค้าโรงงาน (เจ้าของแบรนด์)
การควบคุมสูงปานกลางสูงที่สุด
ต้นทุนการเริ่มต้นปานกลาง (ขึ้นอยู่กับ R&D ของลูกค้า)ค่อนข้างต่ำ (ลดภาระ R&D)สูงที่สุด
เวลาในการออกสู่ตลาดขึ้นอยู่กับความพร้อมของแบบลูกค้ารวดเร็ว (เลือกจากที่มีอยู่) ถึงปานกลาง (ร่วมพัฒนา)ช้าที่สุด
ความเสี่ยงปานกลางปานกลางถึงต่ำสูงที่สุด

 


 

ข้อดีข้อเสียสำหรับแบรนด์สตาร์ทอัพ

สำหรับแบรนด์สตาร์ทอัพ การเลือกโมเดลการผลิตเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัด

OEM สำหรับสตาร์ทอัพ

ข้อดี: หากคุณมีความเชี่ยวชาญและสูตรเฉพาะตัวอยู่แล้ว การทำ OEM ช่วยให้คุณควบคุมคุณภาพและเอกลักษณ์ของสินค้าได้เต็มที่ อาจได้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่เข้าถึงได้ง่ายหากมีปริมาณมากพอ
ข้อเสีย: ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้านการพัฒนาสินค้าสูง ต้องลงทุนและใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนาเองทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นภาระสำหรับทีมงานขนาดเล็ก

ODM สำหรับสตาร์ทอัพ

ข้อดี: เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับสตาร์ทอัพ ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการ R&D ได้มาก เพราะโรงงานมีสูตร มี know-how และมีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานพร้อมอยู่แล้ว สามารถนำสินค้าออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ลดความยุ่งยากในการจัดการกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
ข้อเสีย: ความเป็นเอกลักษณ์ของสูตรอาจไม่โดดเด่นเท่าการพัฒนาเองทั้งหมด อาจต้องแข่งขันกับแบรนด์อื่นที่ใช้บริการ ODM จากโรงงานเดียวกัน

OBM สำหรับสตาร์ทอัพ

OBM ไม่ใช่โมเดลที่เหมาะกับแบรนด์สตาร์ทอัพส่วนใหญ่ในระยะเริ่มต้น เพราะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการสร้างทุกอย่างเองทั้งหมด ทั้งโรงงาน R&D การตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย มักเป็นโมเดลสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมและต้องการควบคุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด


 

สรุป: เลือกโมเดลไหนดี?

การตัดสินใจเลือกระหว่าง OEM, ODM หรือแม้แต่การพิจารณาถึง OBM (ซึ่งไม่เหมาะกับสตาร์ทอัพส่วนใหญ่) ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

  • งบประมาณ: ODM มักจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายกว่า OEM (หากนับรวมต้นทุน R&D ของลูกค้า) และ OBM มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด
  • ความเชี่ยวชาญ: หากคุณมีทีม R&D หรือสูตรเฉพาะตัวที่ต้องการควบคุมเต็มที่ OEM อาจเป็นทางเลือก แต่หากไม่มี ODM คือคำตอบที่ช่วยลดภาระและเวลาได้มาก
  • เวลาในการออกสู่ตลาด: ODM ช่วยให้คุณนำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็วที่สุด
  • ระดับการควบคุม: OEM ให้การควบคุมสูงสุด รองลงมาคือ ODM และ OBM ให้การควบคุมเต็มที่แต่ต้องลงทุนทั้งหมด
  • เป้าหมายธุรกิจ: คุณต้องการสร้างแบรนด์ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของสูตรเต็มที่ (อาจเลือก OEM หากมี R&D พร้อม) หรือต้องการสร้างแบรนด์ที่เน้นการตลาดและการขายสินค้าคุณภาพที่ได้มาตรฐานออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว (ควรเลือก ODM)

สำหรับแบรนด์สตาร์ทอัพที่ต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแบกรับภาระด้านการผลิตและการพัฒนาสินค้าที่ซับซ้อน การเลือกพันธมิตร ODM ที่เชื่อถือได้ซึ่งให้บริการแบบครบวงจร (ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การผลิต การขอ อย. และการออกแบบบรรจุภัณฑ์) ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี


 

สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งกับ DoctorLAB: พาร์ทเนอร์ ODM ครบวงจร

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่กำลังมองหาทางเริ่มต้นธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามหรืออาหารเสริม และเห็นว่าโมเดล ODM คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ DoctorLAB พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ของคุณ เราเป็นโรงงานผู้ผลิตแบบ ODM ที่ให้บริการครบวงจร (One-Stop Service) ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเลือกสูตรที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น การดำเนินการเรื่องเอกสาร อย. ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลคุณในทุกขั้นตอน ช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

การเลือกพาร์ทเนอร์ ODM ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ DoctorLAB เข้าใจถึงความต้องการของสตาร์ทอัพ เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบบริการที่ไม่ใช่แค่การผลิต แต่เป็นการสร้างแบรนด์ร่วมกับคุณ เราเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญและบริการที่ครอบคลุมของเรา จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

อย่าปล่อยให้ความซับซ้อนของการผลิตมาเป็นอุปสรรคในการสร้างแบรนด์ในฝันของคุณ


 

คำถามที่พบบ่อย

Q: สตาร์ทอัพควรเลือก OEM หรือ ODM?
A: โดยทั่วไป สตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักจะเหมาะกับโมเดล ODM มากกว่า เนื่องจากมีต้นทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่า ระยะเวลาการผลิตที่เร็วกว่า และความเสี่ยงน้อยกว่า OEM ที่ต้องลงทุน R&D สูง อย่างไรก็ตาม การเลือกขึ้นอยู่กับงบประมาณ เป้าหมาย และความต้องการในการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ของคุณ

Q: โรงงาน ODM มีบริการอะไรบ้าง?
A: โรงงาน ODM อย่าง  DoctorLAB โที่มีบริการแบบ One-Stop Service จะมีบริการครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเลือกหรือพัฒนาสูตร (จากที่มีอยู่), การออกแบบบรรจุภัณฑ์, การขออนุญาต/ขึ้นทะเบียน อย., การผลิต และการบรรจุสินค้า

Q: การเลือกโรงงาน ODM ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง?
A: ควรพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของโรงงาน ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้าน R&D มาตรฐานการผลิต (เช่น GMP, ISO) บริการที่ครบวงจร การซัพพอร์ตหลังการขาย และเงื่อนไขการผลิตต่างๆ

Q: ถ้าต้องการสูตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ ควรเลือก OEM หรือ ODM?
A: หากคุณมีทีม R&D และต้องการควบคุมสูตรอย่างเต็มที่ OEM คือตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากต้องการให้โรงงานช่วยพัฒนาสูตรใหม่ตามแนวคิดของคุณ ODM ที่มีศักยภาพด้าน R&D สูงก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้เช่นกัน โดยอาจมีข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์สูตรเพิ่มเติม

Copied!
#obm #odm #oem
previous post
Unlocking the Power of 10 Best Plant-Based Protein Sources
next post
White Label คืออะไร? กลยุทธ์เปลี่ยนธุรกิจให้เติบโตเร็ว

1 Comment

  1. OEM คืออะไร? ต่างจาก ODM, OBM, White Label และ Private Label อย่างไร?

    July 22, 2025 at 4:48 pm

    […] สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะความแตกต่างจากโมเดลการผลิตอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน […]

Comments are closed.

แนวโน้มตลาดสุขภาพและความงาม

อัปเดตแนวโน้มตลาดสุขภาพและความงามปี 2025 ทั้งในไทยและทั่วโลก พร้อมเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค กลยุทธ์แบรนด์ และเทคโนโลยีที่มาแรง เพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

categories
  • เริ่มต้นสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพ (9)
  • แนวโน้มตลาดสุขภาพและความงาม (2)
popular posts
Unlocking the Power of Plant-Based Protein: 10 Delicious Sources to Fuel Your Healthy Lifestyle
Unlocking the Power of 10 Best Plant-Based Protein Sources
November 4, 2025
plant-based-protein-doctorlab
โปรตีนพืช คืออะไร? แตกต่างจากเวย์โปรตีนอย่างไร?
September 30, 2025
how-to-start-cosmetic-brand-guide-doctorlab
จะเริ่มต้นทำแบรนด์เครื่องสำอาง เริ่มจากอะไรดี?
September 22, 2025
starting-supplement-business-2025-low-budget
เริ่มต้นธุรกิจอาหารเสริมปี 2025 ฉบับคนงบน้อย: สร้างแบรนด์ของคุณเองจาก White Label สู่ OEM
September 19, 2025
share
Facebook-f Linkedin-in Jws-icon-x-twitter

Related Posts

Unlocking the Power of Plant-Based Protein: 10 Delicious Sources to Fuel Your Healthy Lifestyle
November 4, 2025
by adlab

Unlocking the Power of 10 Best Plant-Based Protein Sources

plant-based-protein-doctorlab
September 30, 2025
by adlab

โปรตีนพืช คืออะไร? แตกต่างจากเวย์โปรตีนอย่างไร?

how-to-start-cosmetic-brand-guide-doctorlab
September 22, 2025
by adlab

จะเริ่มต้นทำแบรนด์เครื่องสำอาง เริ่มจากอะไรดี?

starting-supplement-business-2025-low-budget
September 19, 2025
by adlab

เริ่มต้นธุรกิจอาหารเสริมปี 2025 ฉบับคนงบน้อย: สร้างแบรนด์ของคุณเองจาก White Label สู่ OEM

August 4, 2025
by adlab

เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์คอลลาเจน: เปิดโลกโรงงานผลิตที่ DoctorLab

DR.LAB-head5
August 4, 2025
by adlab

Unlocking Beauty: Inside the World of Collagen Production Factories

August 4, 2025
by adlab

เริ่มต้นแบรนด์อาหารเสริมต้องรู้อะไรบ้าง? 7 สิ่งที่คุณห้ามพลาดก่อนสร้างแบรนด์ของตัวเอง

July 21, 2025
by adlab

White Label คืออะไร? กลยุทธ์เปลี่ยนธุรกิจให้เติบโตเร็ว

เริ่มต้นแบรนด์วันนี้ ไม่ต้องรอสูตร ไม่ต้องเสียเวลา แค่เลือก DoctorLAB เราพร้อมดูแลให้ครบจบในที่เดียว
ปรึกษาเริ่มสร้างแบรนด์กับเรา
บริการของเรา
  • ผลิตแบบ ODM
  • บริการ White Label
  • บริการ Private Label
  • ขั้นตอนการสร้างแบรนด์
เกี่ยวกับ DoctorLAB
  • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
  • มาตรฐานโรงงาน
  • ติดต่อเรา
สาระความรู้
  • บทความสร้างแบรนด์
  • แนวโน้มตลาดสุขภาพและความงาม
  • การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์
บริษัท ด็อกเตอร์แลบ จำกัด

ที่อยู่: 8888/2 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280

Mobile : 085-412-2929

LINE : @doctorlab

© 2025 DoctorLab. All Rights Reserved.

Login

Forgot password?